บริจาค

เห็นว่า..บล็อกนี้ดี มีประโยชน์... โปรดสนับสนุนผู้ทำบล็อกได้ที่ พร้อมเพย์ 083-4616989
หรือบัญชี 002-1-70462-8 กสิกรไทย สาขาบางลำภู

ถ้าอยากไปสวรรค์จะทำอย่างไร?[1]


ตอนนี้อยู่กับ "ไซเบอร์วนาราม.เน็ต เว็บไซต์เพื่อพระพุทธศาสนาและวัฒนธรรม" อีก 1 ครั้ง เป็นข้อเขียนของพระมหาบุญไทย  ปุญญมโน

พระมหาบุญไทยตั้งชื่อข้อเขียนว่า "ถ้าอยากไปสวรรค์จะทำอย่างไร?"  แต่ผมขอบอกตรงๆ ว่า หลังจากที่ผมอ่านจบแล้ว  

ผมก็ยังไม่รู้วิธีที่พระมหาบุญไทยเสนอมาว่า จะทำอย่างไร ถ้าต้องการจะไปสวรรค์?

จึงควรที่จะมาวิพากษ์วิจารณ์กันพอหอมปากหอมคอ และเสนอวิธีการของวิชาธรรมกายว่า ถ้าอยากจะไปสวรรค์จริงๆ แล้วเราควรจะทำอย่างไร?

ขอยืนยันว่า  วิธีการที่ผมจะแนะนำต่อไปนี้ ทำได้อย่างแน่นอน เป็นวิธีการที่มีเนื้อหาวิชาของธรรมกายรองรับ  แต่ท่านผู้อ่านจะทำได้หรือเปล่านั้น เป็นอีกเรื่องหนึ่ง..

ซึ่งต่างกับข้อเขียนของพระมหาบุญไทย ซึ่งอาจแล้ว ไม่ได้เกิดประเทืองปัญญาขึ้นแต่อย่างไร

พระมหาบุญไทย เริ่มต้นบทนำไว้ ดังนี้

คำสอนของพระพุทธศาสนาที่มีคนสอบถามมากที่สุดเรื่องหนึ่งคือนรกสวรรค์ บางคนสงสัยว่ามีอยู่จริงหรือไม่ ถ้ามีอยู่ที่ไหน จะไปได้อย่างไร

พระสงฆ์ทั้งหลายก็พยายามตอบ ผู้ถามก็เชื่อบ้างไม่เชื่อบ้าง เพราะผู้ตอบเองก็ไม่สามารถจะหาตัวอย่างที่ชัดเจนได้

แต่คำสอนที่พระพุทธศาสนาที่คนมักจะจำได้ติดปากมากที่สุดเรื่องหนึ่งคือทำดี ไปสวรรค์ ทำชั่วไปนรก แล้วคนประเภทไหนที่ควรไปสวรรค์

บทนำของพระมหาบุญไทยนี่ คนอ่านที่เข้าใจภาษาดีๆ ก็ใจเสียแล้ว  เดาได้เลยว่า พระมหาบุญไทยก็ “ไม่สามารถจะหาตัวอย่างที่ชัดเจนได้”  แต่ผมฆราวาสศีล 5 นี่แหละ จะตอบให้ได้ชัดเจน และแสดงวิธีทำด้วย

ในส่วนของเนื้อหานั้น พระมหาบุญไทยได้ยกตัวอย่างมาจากเวฬุทวารสูตร  โดยเริ่มในส่วนของเนื้อหาดังนี้

ครั้งหนึ่งพราหมณ์และ คฤหบดีชาวเวฬุทวารคามได้สอบถามพระพุทธเจ้า สรุปความว่า พวกเขายังอยากครอง เรือนยังยินดีในการครองเรือน ยินดีในทรัพย์สินเงินทอง แต่เมื่อตายแล้วอยากไปสวรรค์จะทำอย่างไร

พระพุทธเจ้าจึงได้แสดงวิธีไปสวรรค์สำหรับชาวบ้านผู้ครองเรือนทั้งหลายไว้ใน เวฬุทวารสูตร  สังยุตตนิกาย มหาวารวรรค (19/1459-1467/353-356) สรุปความว่า

ผมขอสรุปความให้สั้นลงไปกว่าของพระมหาบุญไทย  ถ้าต้องการอ่านของพระมหาบุญไทยทั้งหมด ก็ไปอ่านได้ที่นี่

http://www.cybervanaram.net/index.php?option=com_content&view=article&id=112:2010-04-19-17-13-01&catid=5:2009-12-17-14-44-06&Itemid=21

เนื้อหาของเวฬุทวารสูตร สรุปได้ดังนี้

ตนเองย่อมงดเว้นจากปาณาติบาตด้วย ชักชวนผู้อื่นเพื่องดเว้นจากปาณาติบาตด้วย กล่าวสรรเสริญคุณแห่งการงดเว้นปาณาติบาตด้วย

ตนเองย่อมงดเว้นจากอทินนาทานด้วย ชักชวนผู้อื่นเพื่อให้งดเว้นจากอทินนาทานด้วย กล่าวสรรเสริญคุณแห่งการงดเว้นจากอทินนาทานด้วย

ตนเองย่อมงดเว้นจากกาเมสุมิจฉาจารด้วย ชักชวนผู้อื่นเพื่อให้งดเว้นจากกาเมสุมิจฉาจารด้วย กล่าวสรรเสริญคุณแห่งการงดเว้นจากกาเมสุมิจฉาจารด้วย

ตนเองย่อมงดเว้นจากมุสาวาทด้วย ชักชวนผู้อื่นเพื่อให้งดเว้นจากมุสาวาทด้วย กล่าวสรรเสริญคุณแห่งการงดเว้นจากมุสาวาทด้วย

ตนเองย่อมงดเว้นจากปิสุณาวาจาด้วย ชักชวนผู้อื่นเพื่อให้เว้นจากปิสุณาวาจาด้วย กล่าวสรรเสริญคุณแห่งการงดเว้นจากปิสุณาวาจาด้วย

ตนเองย่อมงดเว้นจากผรุสวาจาด้วย ชักชวนผู้อื่นเพื่อให้งดเว้นจากผรุสวาจาด้วย กล่าวสรรเสริญคุณแห่งการงดเว้นจากผรุสวาจาด้วย

ตนเองย่อมงดเว้นจากสัมผัปปลาปะด้วย ชักชวนผู้อื่นเพื่อให้งดเว้นจากสัมผัปปลาปะด้วยกล่าวสรรเสริญคุณแห่งการงด เว้นจากสัมผัปปลาปะด้วย

ดูกรพราหมณ์และคฤหบดี ทั้งหลาย เมื่อใดอริยสาวกประกอบด้วยสัทธธรรมเจ็ดประการนี้ เมื่อนั้น อริยสาวกนั้นหวังอยู่ ด้วยฐานะเป็นที่ตั้งแห่งความหวังสี่ประการนี้

พึงพยากรณ์ตนด้วยตนเองได้ว่า เรามีนรก กำเนิดสัตว์ดิรัจฉาน ปิตติวิสัย อบาย ทุคติ วินิบาตสิ้นแล้ว เราเป็นพระโสดาบัน มีความไม่ตกต่ำเป็นธรรมดา เป็นผู้เที่ยงที่จะตรัสรู้ในเบื้องหน้า

พระมหาบุญไทยได้สรุปข้อเขียนของท่านไว้ ดังนี้

คำตอบเรื่องสวรรค์นรกใน เวฬุทวารสูตรนี้แปลกไปจากพระสูตรอื่น

ข้อแรกเหมือนจะเป็นศีลห้า แต่พออ่านไปกลับไม่ใช่ทั้งหมด มีศีลห้าอยู่เพียงสี่ข้อ ส่วนอีกสามข้อที่เหลือเป็นเรื่องการพูดคือ นอกจากจะพูดเท็จ ยังมีพูดส่อเสียด พูดคำหยาบ พูดเพ้อเจ้อ ซึ่งเกี่ยวกับการพูดถึงสี่ประการ

แสดงให้เห็นว่า เรื่องของคำพูดนั้นสามารถทำให้คนทำผิดและเป็นเหตุให้ตกนรกได้ มากกว่าอย่างอื่น

หากทำได้ทุกข้อนั่นเป็นการดี แต่ถ้าทำได้ไม่หมดก็เลือกทำข้อใดข้อหนึ่งก็จะเป็นหนทางไปสู่สวรรค์ได้เหมือนกัน เพราะสวรรค์มีหลายชั้น

ผมขอ “ฟันธง” and confirm ไว้เลยว่า พระมหาบุญไทย “มั่ว” ซะแล้ว  พระสูตรนี้ พระพุทธองค์สอนถึงเรื่องการบรรลุโสดาบัน  เลยสวรรค์ไปแล้ว

ขนาดยกพระสูตรมาเป็นตัวอย่าง ยังยกไม่ถูกเรื่องถูกราว  พระมหาบุญไทยท่านจะชี้ทางไปสวรรค์ให้คนอ่านได้อย่างไร

วันนี้ อ่านพระไตรปิฎกยาวหน่อย เห็นว่าไม่ควรตัดตอนใดตอนหนึ่งออกไป อยากให้ทนอ่านพร้อมทั้งพิจารณาไปด้วย

สำนวนพระไตรปิฎก  แม้จะอ่านยาก แต่เมื่อต้องการหลักฐานอ้างอิง ก็ไม่มีหลักฐานอื่นที่น่าเชื่อถือมากไปกว่าไปไตรปิฎก

ผมอยากจะถามท่านผู้อ่านทุกท่านว่า  อ่านแล้วรู้ไหมว่า ถ้าอยากไปสวรรค์จะทำอย่างไร?

ผมไม่สงสัยเลยว่า ทำไมสังคมไทยปัจจุบัน ปัญหาเรื่องคุณธรรม จริยธรรม ศีลธรรมจึงเป็นปัญหาใหญ่ 

ก็พระห่มผ้าเหลืองยังไม่เข้าใจเรื่องสวรรค์-นรก  แล้วจะมีหน้าไปชี้นำสังคมให้ไปถูกทางได้อย่างไร

โดยสรุป

จะเห็นว่า บทความนี้ พระมหาบุญไทยไม่ได้เข้าใจเลยว่า การจะไปสวรรค์นั้นจะต้องทำอย่างไร บทความนี้ก็คล้ายๆ กับบทความอื่นของพุทธวิชาการหรือพวกปริยัติอย่างเดียว

ในเมื่อกลุ่มบุคคลที่สังคมให้การยอมรับว่ามีความรู้ในทางศาสนาเป็นอย่างดี แต่ไม่เข้าใจเรื่องพื้นฐานของศาสนา เช่น นรก-สวรรค์ เป็นต้น 

พุทธศาสนิกชนของประเทศจึงกลายเป็นคนไม่เชื่อเรื่องนรก-สวรรค์ไปเสียสิ้น

ผู้เขียนติดใจอยู่ว่า เมื่อไม่เชื่อเรื่องนรก-สวรรค์แล้วจะบวชพระอยู่ทำไม..  ควรที่จะสึกมาหากินเอง เพื่อไม่ให้เป็นภาระของศาสนา





ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น