ตอนนี้อยู่กับ "ไซเบอร์วนาราม.เน็ต เว็บไซต์เพื่อพระพุทธศาสนาและวัฒนธรรม" อีก 1 ครั้ง เป็นข้อเขียนของพระมหาบุญไทย ปุญญมโน
พระมหาบุญไทยตั้งชื่อข้อเขียนว่า
"ถ้าอยากไปสวรรค์จะทำอย่างไร?"
แต่ผมขอบอกตรงๆ ว่า หลังจากที่ผมอ่านจบแล้ว
ผมก็ยังไม่รู้วิธีที่พระมหาบุญไทยเสนอมาว่า
จะทำอย่างไร ถ้าต้องการจะไปสวรรค์?
จึงควรที่จะมาวิพากษ์วิจารณ์กันพอหอมปากหอมคอ
และเสนอวิธีการของวิชาธรรมกายว่า ถ้าอยากจะไปสวรรค์จริงๆ แล้วเราควรจะทำอย่างไร?
ขอยืนยันว่า วิธีการที่ผมจะแนะนำต่อไปนี้ ทำได้อย่างแน่นอน เป็นวิธีการที่มีเนื้อหาวิชาของธรรมกายรองรับ
แต่ท่านผู้อ่านจะทำได้หรือเปล่านั้น เป็นอีกเรื่องหนึ่ง..
ซึ่งต่างกับข้อเขียนของพระมหาบุญไทย
ซึ่งอาจแล้ว ไม่ได้เกิดประเทืองปัญญาขึ้นแต่อย่างไร
พระมหาบุญไทย
เริ่มต้นบทนำไว้ ดังนี้
คำสอนของพระพุทธศาสนาที่มีคนสอบถามมากที่สุดเรื่องหนึ่งคือนรกสวรรค์
บางคนสงสัยว่ามีอยู่จริงหรือไม่ ถ้ามีอยู่ที่ไหน จะไปได้อย่างไร
พระสงฆ์ทั้งหลายก็พยายามตอบ ผู้ถามก็เชื่อบ้างไม่เชื่อบ้าง เพราะผู้ตอบเองก็ไม่สามารถจะหาตัวอย่างที่ชัดเจนได้
แต่คำสอนที่พระพุทธศาสนาที่คนมักจะจำได้ติดปากมากที่สุดเรื่องหนึ่งคือทำดี
ไปสวรรค์ ทำชั่วไปนรก แล้วคนประเภทไหนที่ควรไปสวรรค์
|
บทนำของพระมหาบุญไทยนี่
คนอ่านที่เข้าใจภาษาดีๆ ก็ใจเสียแล้ว
เดาได้เลยว่า พระมหาบุญไทยก็ “ไม่สามารถจะหาตัวอย่างที่ชัดเจนได้” แต่ผมฆราวาสศีล
5 นี่แหละ จะตอบให้ได้ชัดเจน และแสดงวิธีทำด้วย
ในส่วนของเนื้อหานั้น
พระมหาบุญไทยได้ยกตัวอย่างมาจากเวฬุทวารสูตร โดยเริ่มในส่วนของเนื้อหาดังนี้
ครั้งหนึ่งพราหมณ์และ คฤหบดีชาวเวฬุทวารคามได้สอบถามพระพุทธเจ้า สรุปความว่า
พวกเขายังอยากครอง เรือนยังยินดีในการครองเรือน ยินดีในทรัพย์สินเงินทอง แต่เมื่อตายแล้วอยากไปสวรรค์จะทำอย่างไร
พระพุทธเจ้าจึงได้แสดงวิธีไปสวรรค์สำหรับชาวบ้านผู้ครองเรือนทั้งหลายไว้ใน
เวฬุทวารสูตร สังยุตตนิกาย
มหาวารวรรค (19/1459-1467/353-356) สรุปความว่า
|
ผมขอสรุปความให้สั้นลงไปกว่าของพระมหาบุญไทย ถ้าต้องการอ่านของพระมหาบุญไทยทั้งหมด
ก็ไปอ่านได้ที่นี่
http://www.cybervanaram.net/index.php?option=com_content&view=article&id=112:2010-04-19-17-13-01&catid=5:2009-12-17-14-44-06&Itemid=21
เนื้อหาของเวฬุทวารสูตร
สรุปได้ดังนี้
ตนเองย่อมงดเว้นจากปาณาติบาตด้วย ชักชวนผู้อื่นเพื่องดเว้นจากปาณาติบาตด้วย
กล่าวสรรเสริญคุณแห่งการงดเว้นปาณาติบาตด้วย
ตนเองย่อมงดเว้นจากอทินนาทานด้วย ชักชวนผู้อื่นเพื่อให้งดเว้นจากอทินนาทานด้วย
กล่าวสรรเสริญคุณแห่งการงดเว้นจากอทินนาทานด้วย
ตนเองย่อมงดเว้นจากกาเมสุมิจฉาจารด้วย ชักชวนผู้อื่นเพื่อให้งดเว้นจากกาเมสุมิจฉาจารด้วย
กล่าวสรรเสริญคุณแห่งการงดเว้นจากกาเมสุมิจฉาจารด้วย
ตนเองย่อมงดเว้นจากมุสาวาทด้วย ชักชวนผู้อื่นเพื่อให้งดเว้นจากมุสาวาทด้วย
กล่าวสรรเสริญคุณแห่งการงดเว้นจากมุสาวาทด้วย
ตนเองย่อมงดเว้นจากปิสุณาวาจาด้วย ชักชวนผู้อื่นเพื่อให้เว้นจากปิสุณาวาจาด้วย
กล่าวสรรเสริญคุณแห่งการงดเว้นจากปิสุณาวาจาด้วย
ตนเองย่อมงดเว้นจากผรุสวาจาด้วย ชักชวนผู้อื่นเพื่อให้งดเว้นจากผรุสวาจาด้วย
กล่าวสรรเสริญคุณแห่งการงดเว้นจากผรุสวาจาด้วย
ตนเองย่อมงดเว้นจากสัมผัปปลาปะด้วย ชักชวนผู้อื่นเพื่อให้งดเว้นจากสัมผัปปลาปะด้วยกล่าวสรรเสริญคุณแห่งการงด
เว้นจากสัมผัปปลาปะด้วย
ดูกรพราหมณ์และคฤหบดี ทั้งหลาย เมื่อใดอริยสาวกประกอบด้วยสัทธธรรมเจ็ดประการนี้
เมื่อนั้น อริยสาวกนั้นหวังอยู่ ด้วยฐานะเป็นที่ตั้งแห่งความหวังสี่ประการนี้
พึงพยากรณ์ตนด้วยตนเองได้ว่า เรามีนรก กำเนิดสัตว์ดิรัจฉาน ปิตติวิสัย
อบาย ทุคติ วินิบาตสิ้นแล้ว เราเป็นพระโสดาบัน มีความไม่ตกต่ำเป็นธรรมดา เป็นผู้เที่ยงที่จะตรัสรู้ในเบื้องหน้า
|
พระมหาบุญไทยได้สรุปข้อเขียนของท่านไว้
ดังนี้
คำตอบเรื่องสวรรค์นรกใน เวฬุทวารสูตรนี้แปลกไปจากพระสูตรอื่น
ข้อแรกเหมือนจะเป็นศีลห้า แต่พออ่านไปกลับไม่ใช่ทั้งหมด มีศีลห้าอยู่เพียงสี่ข้อ
ส่วนอีกสามข้อที่เหลือเป็นเรื่องการพูดคือ นอกจากจะพูดเท็จ ยังมีพูดส่อเสียด พูดคำหยาบ
พูดเพ้อเจ้อ ซึ่งเกี่ยวกับการพูดถึงสี่ประการ
แสดงให้เห็นว่า เรื่องของคำพูดนั้นสามารถทำให้คนทำผิดและเป็นเหตุให้ตกนรกได้
มากกว่าอย่างอื่น
หากทำได้ทุกข้อนั่นเป็นการดี แต่ถ้าทำได้ไม่หมดก็เลือกทำข้อใดข้อหนึ่งก็จะเป็นหนทางไปสู่สวรรค์ได้เหมือนกัน
เพราะสวรรค์มีหลายชั้น
|
ผมขอ
“ฟันธง” and confirm ไว้เลยว่า พระมหาบุญไทย “มั่ว” ซะแล้ว
พระสูตรนี้ พระพุทธองค์สอนถึงเรื่องการบรรลุโสดาบัน เลยสวรรค์ไปแล้ว
ขนาดยกพระสูตรมาเป็นตัวอย่าง
ยังยกไม่ถูกเรื่องถูกราว
พระมหาบุญไทยท่านจะชี้ทางไปสวรรค์ให้คนอ่านได้อย่างไร
วันนี้ อ่านพระไตรปิฎกยาวหน่อย เห็นว่าไม่ควรตัดตอนใดตอนหนึ่งออกไป อยากให้ทนอ่านพร้อมทั้งพิจารณาไปด้วย
สำนวนพระไตรปิฎก แม้จะอ่านยาก
แต่เมื่อต้องการหลักฐานอ้างอิง ก็ไม่มีหลักฐานอื่นที่น่าเชื่อถือมากไปกว่าไปไตรปิฎก
|
ผมอยากจะถามท่านผู้อ่านทุกท่านว่า อ่านแล้วรู้ไหมว่า ถ้าอยากไปสวรรค์จะทำอย่างไร?
ผมไม่สงสัยเลยว่า
ทำไมสังคมไทยปัจจุบัน ปัญหาเรื่องคุณธรรม จริยธรรม ศีลธรรมจึงเป็นปัญหาใหญ่
ก็พระห่มผ้าเหลืองยังไม่เข้าใจเรื่องสวรรค์-นรก แล้วจะมีหน้าไปชี้นำสังคมให้ไปถูกทางได้อย่างไร
โดยสรุป
จะเห็นว่า
บทความนี้ พระมหาบุญไทยไม่ได้เข้าใจเลยว่า การจะไปสวรรค์นั้นจะต้องทำอย่างไร
บทความนี้ก็คล้ายๆ กับบทความอื่นของพุทธวิชาการหรือพวกปริยัติอย่างเดียว
ในเมื่อกลุ่มบุคคลที่สังคมให้การยอมรับว่ามีความรู้ในทางศาสนาเป็นอย่างดี
แต่ไม่เข้าใจเรื่องพื้นฐานของศาสนา เช่น นรก-สวรรค์ เป็นต้น
พุทธศาสนิกชนของประเทศจึงกลายเป็นคนไม่เชื่อเรื่องนรก-สวรรค์ไปเสียสิ้น
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น