บริจาค

เห็นว่า..บล็อกนี้ดี มีประโยชน์... โปรดสนับสนุนผู้ทำบล็อกได้ที่ พร้อมเพย์ 083-4616989
หรือบัญชี 002-1-70462-8 กสิกรไทย สาขาบางลำภู

นรกสวรรค์มีจริงหรือของ ว. วชิรเมธี[02]


หลังจากหาเรื่อง “เฉียดขอบนรก” ด้วยการวิพากษ์วิจารณ์ข้อเขียนของท่าน ว. วชิรเมธี ไปแล้ว

วันนี้มาหาเรื่อง “เฉียดขอบคุก” ด้วยการวิพากษ์วิจารณ์ทนายความหย่าย....................ม๊ากมาก คือ ท่านทนายธรรมสรณ์ รุจิรวัฒนาภรณ์ ทนายความ เนติบัณฑิตไทย ป.โทนิติศาสตรมหาบัณฑิต

ผมไม่รู้ท่านทนายธรรมสรณ์ รุจิรวัฒนาภรณ์ “ใหญ่” ขนาดไหน แต่อ่านดูอีเมล์ฉบับแรกที่เขียนมาถึงผมแล้ว คิดว่า “คงใหญ่” น่าดูเหมือนกัน

จากบทความของคุณ เรื่อง ว.วชิรเมธี เรื่องสมีไชยบูลย์ ที่คุณเขียนวิพากษ์ สะกิดใจผม เช่น...

"ถ้าผมเป็นพระ (ซึ่งเคยเป็นมาแล้ว 4 ครั้ง) ผมก็จะตอบว่า มีจริง แต่อาตมายังไม่เห็นหรอกนะ เพราะยังปฏิบัติไปไม่ถึง ถ้าเมื่อไหร่เห็นด้วยตาของอาตมาแล้ว ก็มาถามใหม่”........

"เมื่อเปรียบเทียบกับผม ผมเป็นวิทยากรสอนธรรมปฏิบัติโดยวิชาธรรมกาย ผมขอยืนยัน เดินยัน นอนยันเลยว่า นรกมีจริง สวรรค์มีจริง สามารถไปดูได้ด้วยวิชาธรรมกาย"

สรุป ผม งง กับคุณ ดร.มนัส โกมลฑา อะไรนี่จริง

ถาม คุณเคยไปเห็นนรก สวรรค์ จริงๆ หรือไม่ กรุณาอย่าโกหก อย่าเพ้อ ละเมอๆ แบบนี้ไม่เอา ตั้งสติก่อนตอบ

ความจริงคือคุณต้องกิน ต้องขี้ ใช่มั้ย ไปนรกสวรรค์ของคุณ ต้องเอาความจริงแบบนี้ด้วย

เออ พระพุทธเจ้า สอน การไม่เข้าไปว่าร้ายกันหนึ่ง ข้อแรกข้อเดียว ผมไม่เห็นคุณจะทำ กลับใช้คำผิดศีลข้อ 4 ด่า หยาบคาย ผรุสวาท สมองหมาปัญญาควาย ฯลฯ สะใจเขียน สะใจอ่าน แค่นั้นหรือ

จาก
ธรรมสรณ์ รุจิรวัฒนาภรณ์ ทนายความ เนติบัณฑิตไทย ป.โทนิติศาสตรมหาบัณฑิต 089-7990763 มีตัวตนจริง ไม่ต้องกลัว สงสัยโทรคุยกันได้

พอได้อ่านผมต๊กใจกลัว กลั้ว กลัว จนสั่นไปทั่วขุมขน จึงตอบอีเมล์ไปว่า

คุณต้องการจะรู้เรื่องอะไร

ต่อจากนั้น ผมก็เอาอีเมล์ของท่านทนายความหย่าย....................ม๊ากมาก คนนี้ไปลงในบล็อก แล้วผมก็วิพากษ์วิจารณ์ไปว่า

ผมก็เลยสงสัยว่า ข้อเขียนของผมผิดพลาดบกพร่อง ขาดความเป็นวิชาการอย่างไรตรงไหน

แล้วเป็นทนายอะไร กลัวการเปิดเผยข้อมูล ต้องเขียนอีเมล์ไปถาม ก็มาเขียนในบล็อกนี้ อย่างที่ผมเอาออกมานี่ จะได้รู้ว่าอะไรเป็นอะไร

ท่านทนายความหย่าย....................ม๊ากมาก ท่านนี้ ไม่ได้ตอบในบล็อกแต่เขียนอีเมล์มาตอบอีก 3 ฉบับติดๆ กันเป็นแฝดสาม ดังนี้

ฉบับที่ 1 Subject: RE: อยากรู้ด่วนที่สุด Date: Sun, 15 Jan 2012 23:39:07 +0700

ด้วยความเคารพ บทความที่คุณเขียนมันมีแต่โจมตีคนอื่น ผมอยากให้เอาข้อเท็จจริงล้วนๆ อย่าตีความ ขอโทษผมสอนคุณไม่ได้หรอก แต่อยากให้เพลาๆ หน่อย

คนกลาง  คำถามผมต้องการถามไว้แล้ว ในเมล์แรก อ่านดี ๆ

ฉบับที่ 2 Subject: RE: อยากรู้ด่วนที่สุด Date: Sun, 15 Jan 2012 23:49:24 +0700

เออ  อ่านจากบทความหลาย ๆ บทความแล้ว คุณ อิจฉาเค้าหรือเปล่าคนที่คุณโจมตีน่ะ 

บอกตรง ผมไม่เข้าข้างใคร แต่อ่านแล้ว รำคาญใจ อยากให้คนที่อ้างว่าเป็นระดับดอกเตอร์ของอีสาน  ใส่ข้อมูลจริง ที่ไม่ตีความ เข้าใจใหม ว่าข้อเท็จจริง ต่างจากการตีความยังไง  ชาวบ้านชาวเมืองทะเลาะกันแบ่งข้างกันทุกวันนี้ก็เพราะนักตีความนี่แหละ

ทนายศาสนาพุทธใครก็อยากเป็น ผมก็อยากเป็น และคำถามของผม ก็คือคุณไปนรกสวรรค์ได้จริงเหรอไม่ ผมสงสัย เพราะการใช้ถ้อยคำสบถด่าว่าของคุณในบทความนั้นแรงมาก ๆ หยาบคายก็มาก

บ่งบอกถึงจิตใจจิตใจคุณยังไม่น่าจะละนิวรณ์ 5 ได้เลย คนไปสวรรค์น่าจะมีเมตตาบารมีอุเบกขาบารมี เป็นอาทิ  ไม่ใช่อิจฉาบารมี

ฉบับที่ 3 Subject: ไม่ต้องตอบก็ได้ Date: Mon, 16 Jan 2012 00:21:16 +0700

สัตว์โลกเป็นไปตามกรรม อยู่แล้ว ผมเสือกอ่านมาเจอบทความของคุณเอง ช่วยไม่ได้จริง ๆ ซวยพอละ เวรย่อมระงับด้วยการไม่จองเวร 

พอจบแค่นี้ ผมไม่อยากรู้ว่าคุณจะเป็นคนวิเศษหรือไม่อีกแล้ว  บายย

พออ่านอีเมล์ฉบับที่ 3 ของท่านทนายความหย่าย....................ม๊ากมากคนนี้ ใหญ่ขนาดกางเกงเด็กก็นุ่งไม่ได้แล้ว

ผมสงสัยยิ่งนักว่า ทำไมท่านทนายความหย่าย....................ม๊ากมากคนนี้ จึงเปลี่ยนใจรวดเร็วยิ่งกว่ากามนิตหนุ่ม

มาทีแรกเลย ท่านตั้งชื่ออีเมล์ว่า “อยากรู้ด่วนที่สุด” แต่พอฉบับสุดท้าย ตอนประมาณเที่ยงคืนครึ่งของคืนวันทิตย์ต่อวันจันทร์

ท่านกลับเปลี่ยนใจเป็นว่า “ไม่ต้องตอบก็ได้” เสียแล้ว

แต่มันสายเกินไปเสียแล้ว เพราะ ผมตอบไปแล้ว และจะตอบไปอีกหลายคน เตรียมฟ้องหมิ่นประมาทได้เลย

ถ้าข้อความที่ผมจะเขียนไปเข้าข่าย “หมิ่นประมาท” ท่าน

ผมเคยเข้าไปสู่ในวงโคจรของกระบวนการยุติธรรม 3 ครั้ง บ้านผมเขาเรียกว่า “ติดตะราง” 3 ครั้ง

ครั้งที่หนึ่ง

เพื่อนในห้องมันเล่นไพ่รัมมี่กัน ผมเป็นคนรักเพื่อนจึงอาสาจดแต้มให้  ตำรวจมาจับผมก็เลยติดติดตะรางไปกับเขาด้วย

ตอนนั้นอายุประมาณ 17 ปี

ครั้งที่สอง

ไปต่อยลูกตำรวจต่อหน้าพ่อของมัน  พ่อมันก็เลยจับเอาไปติดตะราง  ตอนที่พอมันจับ รู้สึกขอบคุณพ่อของมันเป็นอย่างยิ่ง เพราะ ต่อยเดี่ยวกัน ตัวมันใหญ่มาก บังผมมิด  ต่อยกันไปนานๆ ผมก็สู้มันไม่ได้แน่ๆ

ตอนนั้นอายุประมาณ 18 ปี

ครั้งที่สาม

ไปหาเรื่องเตะลูกศิษย์วัดในวัด  ก็เลยถูกจับ

ตอนนั้นอายุประมาณ 19 ปี

สรุปได้ว่า ก่อนอายุ 20 ปี ผมได้มีโอกาสเข้าไปนอนในโรงแรมของตำรวจ กินฟรี อยู่ฟรี มีคนอารักขาเป็นอย่างดี

ตอนนี้อยากถูกจับเพราะ หมิ่นประมาท ทนายความหย่าย....................ม๊ากมาก ใหญ่จนกางเกงเด็กนุ่งไม่ได้ บ้าง 

อยากจะรู้ว่าตะรางได้รับการปรับปรุงไปบ้างหรือไม่


อย่าฟ้องหมิ่นประมาทข้อหาย่อหน้าที่ผ่านมานะครับ  เพราะ ยังไงๆ ก็ไม่หมิ่น 

ถ้าติดกับน้องลินด์เซย์อย่างนี้ ไม่ยอมออกเลย



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น