บริจาค

เห็นว่า..บล็อกนี้ดี มีประโยชน์... โปรดสนับสนุนผู้ทำบล็อกได้ที่ พร้อมเพย์ 083-4616989
หรือบัญชี 002-1-70462-8 กสิกรไทย สาขาบางลำภู

นรกสวรรค์มีจริงหรือของ ว. วชิรเมธี


วันนี้หาเรื่อง เฉียดขอบนรก ด้วยการวิพากษ์วิจารณ์ข้อเขียนของพระปริยัติธรรมคนดังสักคนหนึ่ง คือ ท่าน ว. วชิรเมธี

ท่าน ว. วชิรเมธีเขียนเรื่อง นรก สวรรค์ มีจริงหรือ?” ไว้ในนิตยสาร Secret ปีที่ ๑ ฉบับที่ ๑๒ (๒๖ ธันวาคม ๒๕๕๑)  แต่ผมไม่ได้อ่านนิตยสารที่ว่า เนื้อหาที่เอามาวิพากษ์วิจารณ์นี้ มาจากหน้าเว็บ นรก สวรรค์ มีจริงหรือ?”

ท่าน ว. วชิรเมธี เกริ่นนำบทความด้วยคำถามที่ว่า

สวรรค์-นรก มีจริงหรือเปล่าครับ และถ้ามีจริง สวรรค์-นรกอยู่ที่ไหน

คนที่นับถือศาสนาอื่นมีสิทธิ์ขึ้นสวรรค์หรือลงนรกเหมือนชาวพุทธไหมครับ

เมื่อถามเองแล้ว ท่าน ว. วชิรเมธีก็มาตอบเองว่า

ถ้าตอบตามหลักฐานที่ปรากฏในพระไตรปิฎกก็คงต้องตอบว่า มีแน่นอน 

อยู่ที่ไหน  น่าจะอยู่ใน ๓ มิติ
มิติจิตใจ
มิติสถานที่ในชีวิตนี้
มิติหลังจากตายแล้ว

ขอให้สังเกตดูคำตอบของพระปริยัติธรรมทั้งหลาย มักจะออกมาทำนองนี้ คือ พยายามอธิบายให้เป็นไปในทางวิชาการ

ซึ่งคนอ่านที่เชื่อวิทยาศาสตร์จะชอบคำตอบแบบนี้  แต่ในกรณีที่เป็นพระปฏิบัติธรรม ก็คงไม่ตอบแบบนี้

ถ้าผมเป็นพระ (ซึ่งเคยเป็นมาแล้ว 4 ครั้ง) ผมก็จะตอบว่า

มีจริง แต่อาตมายังไม่เห็นหรอกนะ เพราะยังปฏิบัติไปไม่ถึง ถ้าเมื่อไหร่เห็นด้วยตาของอาตมาแล้ว ก็มาถามใหม่

แค่นี้ก็ตอบกันไม่ได้

ก็บอกง่ายๆ ว่า พระพุทธเจ้าสอนเฉพาะสิ่งที่เป็นความจริงเท่านั้น เรื่องนอกนี้ พระองค์ไม่สอน  คนที่ไม่เชื่อพระพุทธเจ้าก็เพราะไปเชื่อวิทยาศาสตร์

ก็บอกไปเลยว่า วิทยาศาสตร์มันเปลี่ยนแปลงบ่อยจะตาย จะเอาเป็นมาตรฐานได้อย่างไร

ประการสำคัญเลยก็คือ วิทยาศาสตร์เขาไม่เคยมาศึกษาเรื่องอย่างนี้  แล้วเอาวิทยาศาสตร์มาเป็นเกณฑ์จับผิดว่า คำสอนของศาสนาพุทธไม่จริงได้อย่างไร

มาวิพากษ์วิจารณ์คำตอบกันเล็กน้อยพอหอมปากหอมคอ

(๑) มิติจิตใจ

ท่านก็หมายถึง สวรรค์ในอก นรกในใจ

อันนี้ไม่ว่ากัน แต่ถ้าเป็นผมตอบ ผมจะตอบตรงๆ ว่า นรกสวรรค์มีจริงๆ ไม่ต้องเปรียบเทียบสวรรค์ในอก นรกในใจให้ปวดหัว ใครไม่เชื่อ ก็เรื่องของมัน

(๒) มิติสถานที่ในชีวิตนี้

ข้อนี้ ท่าน ว. วชิรเมธี หมายถึง

สถานที่ใดก็ตามที่คนชั่วกำลังได้รับผลแห่งกรรมชั่วของตนอยู่ในที่นั้น  สถานที่เช่นนี้เองคือนรก  สถานที่ใดก็ตามที่คนดีกำลังได้รับผลกรรมดีของตนอยู่ สถานที่เช่นนี้เองคือสวรรค์

แล้วท่านก็เล่าเรื่องจากพระคัมภีร์พระธรรมบทที่ว่า มีพระอรหันต์เห็นเปรตด้วยทิพยจักษุของท่านที่เชิงเขาคิชกูฎ แล้วก็มาทูลพระพุทธองค์

พระพุทธองค์ทรงรับรองว่า พระองค์ก็เคยเห็นเช่นนั้นเหมือนกัน แต่ที่ไม่ทรงนำมาเล่าก็เพราะไม่อยากให้คนที่ไม่เห็น ไม่เชื่อ ต้องมาเสียเวลาทักทวง อันเป็นการต่อความยาวสาวความยืดไม่รู้จบ

ท่าน ว. วชิรเมธี  สรุปว่า จากเหตุการณ์นี้ทำให้เราได้ข้อสรุปว่า นรก-สวรรค์ในมิติสถานที่เป็นสิ่งที่มีอยู่จริงในชีวิตนี้ 

ปัญหาก็มีเพียงแต่ว่า เราไม่สามารถมองเห็นสถานที่เหล่านั้นด้วยตาเนื้อ เพราะเราไม่มีทิพยจักษุนั่นเอง  ใครอยากเห็นต้องพัฒนาตนจนมีทิพยจักษุให้ได้เสียก่อน

ตรงนี้ผมเริ่มงงๆ กับท่าน ว. วชิรเมธีเสียแล้วว่า มีข้อนี้ขึ้นมาทำไม  เอาแค่ข้อหนึ่งกับข้อสามก็พอแล้ว คือ สวรรค์ในอก นรกในใจเพื่อเปรียบเทียบ กับสวรรค์นรกจริงๆ ไปเลย

เพราะ เรื่องที่เล่ามาในข้อที่สองนี้ มันก็คือ สวรรค์นรกจริงๆ ก็เปรตมันมาอยู่ในมนุษยโลกได้ เพราะ โทษทัณฑ์เบาบางลงไปแล้ว


ทำไมจะต้องมาแบ่งเป็นอีกข้อหนึ่งให้มันยุ่งยากขึ้นก็ไม่รู้



(๓) มิติหลังจากตายแล้ว

ท่าน ว. วชิรเมธีอธิบายข้อนี้ไว้ดังนี้

นรก-สวรรค์ในมิติหลังความตายไปแล้ว คือ สภาพชีวิตที่เราแต่ละคนได้ประสบในภพนั้น ๆ หลังจากล่วงลับดับขันธ์ไปแล้ว

ข้อนี้อ้างอิงจากข้อความที่พบบ่อยๆ ในพระไตรปิฎกว่า เบื้องหน้าแต่ตายเพราะกายแตก เขาย่อมเข้าถึงสุคติโลกสวรรค์ หริออบายทุคติ วินิบาต…”

แล้วท่านก็เล่าเรื่อง พระนางสามาวดี ชายาของพระเจ้าอุเทนแห่งนครโกสัมพีที่เคยก่อไฟผิง แต่ไฟได้ลามไปไหม้ป่า และเผาพระอรหันต์ตายไปในกองไฟ

เมื่อเห็นพระอรหันต์ตาย ยังมีซากอยู่ ก็เลยให้บริวารเผาซ้ำจนไม่เหลือซาก

ชาตินี้ พระนางสามาวดีก็ถูกคู่อริจ้างคนร้ายมาเผาตำหนัก  ทำให้พระนางต้องสิ้นพระชนม์ท่ามกลางกองไฟ

เมื่อพิจารณาคำตอบของพระปริยัติอย่างเช่นท่าน ว. วชิรเมธีแล้ว ก็เหมือนนักปริยัติท่านอื่นๆ ที่ไม่กล้าเขียนไปตรงๆ ว่า นรกมีจริงๆ กี่ขุมก็ว่ากันไป

อบายภูมิอื่นๆ ก็มีจริงๆ รายละเอียดก็ว่ากันไป  สวรรค์มี 6 ชั้น รูปพรหม 16 ชั้น อรูปพรหม 4 ชั้นก็ว่าไป ตามพระไตรปิฎกเลย

ทำไมท่านไม่กล้าเขียนลงไป

ที่ไม่กล้าเขียนก็เพราะกลัวเสียชื่อเสียงปลอมๆ ของท่าน เพราะ ท่านเชื่อวิชาการสมัยใหม่มากกว่าที่จะเชื่อพระไตรปิฎก

ท่านไม่ปฏิบัติธรรมให้เป็นหลักเป็นฐาน  เพราะ ท่านไม่เชื่อ

เมื่อเปรียบเทียบกับผม ผมเป็นวิทยากรสอนธรรมปฏิบัติโดยวิชาธรรมกาย  ผมขอยืนยัน เดินยัน นอนยันเลยว่า

นรกมีจริง สวรรค์มีจริง สามารถไปดูได้ด้วยวิชาธรรมกาย

ผมเป็นอาจารย์มหาวิทยาลัย ผมจบปริญญาเอกปรัชญาดุษฎีบัณฑิต  ผมไม่เห็นจะกลัวใครจะมาว่า ผมโง่งมงายเพราะเชื่อเรื่องเหล่านี้เลย


หรือว่า สมัยนี้ อุบาสก อุบาสิกาจะทำงานให้พระศาสนาดีกว่าภิกษุเสียแล้ว 




ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น